“การสัมภาษณ์งาน ไม่ว่าคุณจะตอบแบบไหน ล้วนสะท้อนถึงความคิด ความอ่าน และทัศนคติต่าง ๆ ของตัวคุณเอง การตอบคำถามในแต่ละข้อ ควรจะตอบในแบบฉบับความเป็นตัวคุณที่สุด ไม่ควรตอบอะไรที่แสดงถึงโอ้อวด หรือมีความมั่นใจเกินไป”
บทความนี้ 109menu อยากจะมาแชร์ 10 คำถามสัมภาษณ์งาน ที่จะเจอเป็นประจำ ให้คุณเข้าใจในการสัมภาษณ์งานมากขึ้น ไปดูกันเลย
คำถามสัมภาษณ์งานสุดฮิต ที่มักเจอบ่อย
1.เล่าเรื่องราวคร่าว ๆ เกี่ยวกับตัวคุณให้ฟังหน่อย
ผู้สัมภาษณ์ อยากจะรู้ว่า เมื่อคุณเรียนจบมา ได้ทำอะไรบ้าง? หรือเริ่มทำงานกับบริษัทแห่งหนึ่ง สิ่งที่คุณได้รับจากบริษัทเดิมมีอะไรบ้าง?
คำถามนี้ ควรใช้เวลาตอบ เพียง 2-3 นาที ตอบแบบกระชับ ให้ได้ใจความที่สุด พร้อมยกตัวอย่างประกอบ เช่น ”หลังจากเรียนจบด้านการตลาด และเริ่มทำงานกับบริษัทการตลาดแห่งหนึ่ง ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานกันเป็นทีม ก่อนการทำงานทุกครั้ง ต้องวางแผนอยู่เสมอ และต้องแข่งขันกับเวลาที่จำกัด รวมถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ สิ่งเหล่านี้ ล้วนสอนฉันมา จึงทำให้ฉันมักจะได้รับมอบหมายดูแลงานโปรเจคใหญ่อยู่เสมอ” แต่ถ้าหากคุณเป็นนักศึกษาจบใหม่ ไม่เคยทำงานที่ไหนมาก่อน คุณสามารถพูดถึง กิจกรรมนักศึกษาที่คุณเคยทำมา ได้เหมือนกัน
2.ทำไม? คุณถึงลาออกจากงานเก่า
ควรตอบด้วยความเป็นจริงให้มากที่สุด สั้น ๆ กระชับ ได้ใจความ พร้อมกับเหตุผลประกอบ และถ้าหากก่ีลาออกจากที่เก่า มันเลวร้ายมาก ๆ ก็ไม่ควรบอกกับ HR เป็นอันขาด อย่าลืมว่า HR อาจขออนุญาตติดต่อกลับบริษัทเก่า เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลเหล่านั้น สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงที่สุด สำหรับการตอบคำถามนี้ คือ การวิจารณ์ที่ทำงาน และเจ้านายเก่า เพราะสิ่งเหล่านี้ จะทำให้ภาพลักษณ์ของคุณดูแย่ และนั่นหมายถึง โอกาสที่คุณจะได้งานนี้ย่อมจบลงด้วยเช่นกัน
3.คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเราบ้าง?
ก่อนจะเข้ามาสัมภาษณ์ ควรศึกษาข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับข้องกับบริษัท เช่น ประวัติความเป็นมาขององค์กร วัฒนธรรม วิสัยทัศน์ ภาพลักษณ์องค์กร รวมถึงตัวสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ คุณสามารถค้นหา ได้ตามหน้าเว็ปไซค์ของบริษัท หรืออาจจะโทรเข้ามาสอบถาม กับทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของบริษัทนั้น เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับตัวบริษัท เพราะการที่คุณได้เตรียมตัว หาข้อมูลก่อนไปสัมภาษณ์งาน แสดงให้ HR เห็นว่า คุณตั้งใจ ที่จะเขามาทำงานที่บริษัทแห่งนี้ นั่นเอง
4.ทำไม? คุณถึงมาสมัครงานกับบริษัทของเรา
คำถามนี้ เป็นอะไรที่ง่ายมาก ๆ ถ้าคุณได้มีการค้นหา ข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวองค์กรมาพอสมควร การตอบคำถามทุกครั้ง ควรตอบอย่างมีเหตุมีผล เช่น
- “ช่วงที่ฉันได้ทำงานบริษัทเก่า ฉันได้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทนี้ ที่ได้เปิดโอกาสให้กับพนักงานทุกคน พิสูจน์ความสามารถ และโปรโมทตัวเอง เพื่อเลื่อนขั้นได้ ฉันจึงสนใจ ที่จะมาสมัครงานกับบริษัทนี้”
- กรณีที่เรียนจบใหม่ “ตอนที่ฉันได้เรียนอยู่ และได้ทราบข่าวเกี่ยวกับบริษัทแห่งนี้ จากรุ่นพี่ ว่าทางบริษัท ได้เปิดโอกาสให้กับนักศึกษาจบใหม่ ได้เข้าทำงาน ซึ่งคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ฉันจะได้เรียนรู้ และเพิ่มความสามารถให้กับตัวเอง”
5.ตามความเข้าใจของคุณ คิดว่าตำแหน่งนี้ ต้องรับผิดชอบงานอะไรบ้าง?
คุณควรทำการบ้านก่อนมาสัมภาษณ์งาน ด้วยการอ่านรายละเอียดของตำแหน่งงาน และคุณสมบัติต่างๆ ที่ทางบริษัทต้องการ ทำความเข้าใจกับมัน ตอบให้สั้นและกระชับใจความ สิ่งสำคัญก่อนตอบ ต้องมั่นใจว่าเข้าใจ ถ้าไม่แน่ใจส่วนไหน ไม่ต้องกลัวที่จะถาม อาจตั้งคำถามกลับในทำนองว่า เข้าใจตำแหน่งงาน แต่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับข้อมูลกลุ่มลูกค้า และผลิตภัณฑ์มากนัก อยากให้ช่วยอธิบายให้เข้าใจในเบื้องต้นหน่อย แต่ถ้าหากไม่รู้ อย่าพยายามตอบ เพราะถ้าตอบผิด นั่นหมายความว่า คุณไม่ได้ทำการบ้านมา ไม่ได้ให้ความสนใจกับงานนี้ แถมยังมั่วอีกต่างหาก
6. ถ้าคุณได้มาทำงานกับบริษัท คุณคิดจะทำอะไร ให้กับบริษัทมากที่สุด?
คำถามนี้ แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถ ความชำนาญของตัวคุณเอง การตอบคำถาม ควรตอบอย่างมั่นใจ คำตอบที่คุณตอบไป สามารถบ่งบอก ถึงความตั้งใจจริงในการทำงาน และความสามารถของตัวคุณเอง แม้ว่าวิธีการคิดของคุณนั้น จะใช้กับบริษัทได้หรือไม่นั้น ไม่ใช่ปัญหา แต่ขอให้คุณใช้ประสบการณ์ และความรู้ที่เรียนมาตอบออกไปนั่นเอง
7.งานอดิเรก ที่คุณทำเป็นประจำ มีอะไรบ้าง?
คำถามสัมภาษณ์งาน ประเภทนี้ HR ต้องการจะดูด้านอุปนิสัย บุคลิกภาพ ของตัวผู้สมัคร ว่าเป็นคนแบบไหน และยังสามารถ รู้ถึงความคิด ความอ่าน การสังเกตุ และการเข้าร่วมกับคนอื่น ๆ ด้วย ตัวอย่างเช่น
- “ฉันชอบอ่านข่าว คุณก็จะถูกถามถึงเหตุการณ์ ณ ปัจจุบันว่าเกิดอะไรขึ้น คุณมีความคิดเห็นต่อข่าวนี้ยังไงบ้าง?”
- “ฉันชอบเล่นกีฬา เพราะอะไร? ทำไมถึงชอบเล่นกีฬาประเภทนี้? คุณได้อะไรจากการออกกำลังกายบ้าง?”
8.อะไรคือ จุดเด่น–จุดอ่อน ของคุณ?
จุดเด่น ควรจะบอกอะไรที่คิดว่าดีที่สุดในตัวเรา และสามารถนำความสามารถนั้นมาใช้กับงานที่จะสมัครได้ เช่น “ฉันเป็นคนไม่ชอบหยุดนิ่ง เนื่องจากชอบ ทำกิจกรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ”
จุดอ่อน ควรจะบอกในสิ่งที่ตัวเองกำลังจะปรับปรุง หรือปรับปรุงำแล้ว และควรบอกถึงผลหลังการปรับปรุงด้วยเช่น “ภาษาอังกฤษของฉันอ่อนมาก ๆ ซึ่งตอนนี้ ฉันกำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่ และผลการเรียนนี้เอง ทำให้ฉันสามารถโต้ตอบจดหมายที่เป็นภาษาอังกฤษได้”
9.คุณต้องการเงินเดือนเท่าไหร่?
เป็นเรื่องที่ยากในการตอบคำถามประเภทนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกเงินเดือนที่มาก หรือน้อย ย่อมส่งผลกระทบต่อตัวเราทั้งสิ้น ในการตอบคำถาม เกี่ยวกับเรื่องเงินเดือนนี้ เราควรจะหาข้อมูลจากทางเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ทำงานในบริษัท หรือตำแหน่งที่คล้ายกันกับที่คุณสมัคร แต่ถ้าหาก HR เสนอเงินเดือนมาสูง หรือต่ำกว่าที่คุณตั้งไว้ อย่าเพิ่งรีบตอบตกลง คุณอาจจะขอเวลาในการพิจารณาสัก 1-2 วัน แล้วค่อยให้คำตอบก็ได้ เพราะถ้าเกิดคุณตอบตกลงไปแล้ว คุณมาขอขึ้นทีหลังก็เหมือนกับว่า คุณเป็นคนโลเล ไม่น่าเชื่อถือได้
10.คุณมีข้อสงสัย อะไรอีกไหม?
ถ้าเจอคำถามนี้ ย่อมหมายถึง การสัมภาษณ์ ได้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ในการตอบคำถาม สัมภาษณ์งาน ในข้อสุดท้ายนี้ จะตอบอย่างไรดี ที่จะแสดงว่าเราเป็นคนเอาใจใส่ เช่น “สวัสดิการที่ฉันจะได้รับมีอะไรบ้าง?” หรือถ้าหากคุณได้ทราบข้อมูลของบริษัทนี้มากพอแล้ว คุณอาจจะไม่ต้องการถามอะไรก็ได้ แต่ถ้ามีคำถาม หรือข้อสงสัยจริง ๆ ควรตั้งคำถาม ที่ฟังแล้วดูดี และที่คาดว่า คำถามนั้น น่าจะถูกใจนายจ้างของคุณให้มากที่สุด
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ คำถามสัมภาษณ์งาน ที่มักจะเจอเวลาไป สัมภาษณ์งาน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 10 ข้อนี้ อาจจะมีบางข้อเท่านั้น ที่คุณจะได้เจอจากการสัมภาษณ์งาน แม้ว่าคำถามในแต่ละข้อนั้นดู จะมีอิสระในการตอบอยู่บ้าง แต่ก็ควรที่จะทำการบ้าน หาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท หรือตำแหน่งที่คุณไปสัมภาษณ์ให้พร้อม เพื่อจะได้ไม่อยู่ในอาการตื่นเต้น หรือประหม่าจนเกินไปนั่นเอง
109menu.com ศูนย์รวมป้ายโฆษณา หลากหลายประเภท กับการบริการที่หลากหลาย ด้านการตลาด และโฆษณา “บริการครบ จบในที่เดียว” สามารถสอบถาม และสั่งซื้อได้ที่ www.109menu.com
ขอบคุณข้อมูลจาก : manpowerthailand