รู้จักกับ UX UI คือ อะไร

UX UI คือ อะไร? ทำไมธุรกิจถึงต้องให้ความสำคัญ

อ่านเมื่อ: 3 นาทีที่แล้ว

ช่วง 2-3 ปี กระแสการพูดถึง UX UI คือ อะไร? มีมาเรื่อยๆ วันนี้ 109Menu จึงถือโอกาสเขียนบทความนี้ขึ้นมา งานที่เกี่ยวข้องกับ UX UI ถือเป็นอาชีพที่กำลังรับความสนใจอย่างมากในยุคดิจิทัล สำหรับงานด้าน UX/UI Design ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน สำหรับ UX หรือ User Experience คือการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ ในขณะที่ UI หรือ User Interface คือการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ ตามสถิติล่าสุด, มีการเพิ่มขึ้นของธุรกิจที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและออนไลน์ ทำให้ความต้องการในผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การมีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่มีการออกแบบที่ดีเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่การสร้างประสบการณ์ที่ดีและเป็นมิตรกับผู้ใช้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากยิ่งขึ้น และนี่คือสิ่งที่ UX/UI Designers สามารถนำเสนอได้

รู้จักกับ UX UI คือ อะไร?

UX UI คือ

เมื่อพูดถึงการออกแบบเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน, คำว่า “UX” และ “UI” นั้นถูกนำมาใช้บ่อยครั้ง แต่หลายคนยังคงสับสนระหว่างสองคำนี้ ในบทความนี้ เราจะพาท่านไปทำความรู้จักกับความหมาย, ความแตกต่าง, ตัวอย่าง UX และ UI ที่ดี และแหล่งที่ไว้หาแรงบันดาลใจในการออกแบบ

  1. UX คืออะไร?
    UX หรือ User Experience หมายถึงประสบการณ์ที่ผู้ใช้ได้รับจากการใช้งานสินค้าหรือบริการ ซึ่งรวมถึงความรู้สึก, ความคิดเห็น, และการตอบสนองต่อสินค้าหรือบริการนั้น
  2. UI คืออะไร?
    UI หรือ User Interface หมายถึงส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงการออกแบบ, สี, รูปแบบ, และการจัดวางของส่วนต่างๆ บนหน้าจอ

ความแตกต่างระหว่าง UX UI คือ อะไร

ความแตกต่างระหว่าง UX UI คือ อะไร

เมื่อพูดถึงการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน, คำว่า “UX” และ “UI” นั้นถูกนำมาใช้บ่อยครั้ง แต่หลายคนยังคงสับสนระหว่างสองคำนี้ ในบทความนี้ เราจะพาท่านไปทำความรู้จักกับความแตกต่างระหว่าง UX และ UI ในหลายมิติ พร้อมยกตัวอย่างจริงเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น โดยขอแยะออกเป็น 4 มิติ

  1. ความหมาย
    UX (User Experience): หมายถึงประสบการณ์ทั้งหมดที่ผู้ใช้ได้รับจากการใช้งานสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึก, ความคิดเห็น, หรือการตอบสนองต่อสินค้าหรือบริการนั้น
    UI (User Interface): หมายถึงส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงการออกแบบ, สี, รูปแบบ, และการจัดวางของส่วนต่างๆ บนหน้าจอ
  2. มิติการใช้งาน
    UX: มุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์ของผู้ใช้ ว่าเขารู้สึกอย่างไรต่อสินค้าหรือบริการ ตัวอย่างเช่น การใช้งานแอปของ Grab ที่ทำให้การจองรถเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
    UI: มุ่งเน้นไปที่การออกแบบและการแสดงผลของสินค้าหรือบริการ ตัวอย่างเช่น การออกแบบปุ่มและสีของแอป Spotify ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสนุกและสบายตา
  3. มิติการพัฒนา
    UX: มักจะต้องทำการวิจัย, ทดสอบผู้ใช้, และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ให้ดียิ่งขึ้น
    UI: มักจะเน้นไปที่การสร้างและปรับปรุงองค์ประกอบทางภาพ เช่น ไอคอน, สี, และฟอนต์
  4. ยกตัวอย่างจริง
    UX: การที่ Amazon มีฟีเจอร์ “1-Click ordering” ทำให้การซื้อสินค้าเป็นเรื่องที่รวดเร็วและสะดวกสำหรับผู้ซื้อ
    UI: การออกแบบโลโก้และสีของ Instagram ที่ทำให้แอปนี้เป็นที่รู้จักและเด่นชัด

ทักษะที่จำเป็น UX และ UI มีอะไรบ้าง

ทักษะที่จำเป็น UX และ UI มีอะไรบ้าง

การมีทักษะทั้งหมดนี้จะช่วยให้ผู้ออกแบบ UX และ UI สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสวยงาม.

ทักษะสำหรับ UX (User Experience):

  • การวิเคราะห์ผู้ใช้: ความสามารถในการทำความเข้าใจและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้
  • การทดสอบผู้ใช้ (User Testing): การจัดการและวิเคราะห์ผลจากการทดสอบผู้ใช้
  • การสร้างแผนที่การใช้งาน (User Flow): การออกแบบเส้นทางการใช้งานของผู้ใช้ในแอปหรือเว็บไซต์
  • การสร้างวิริยะ (Wireframing): การสร้างโครงสร้างพื้นฐานของหน้าจอ
  • การสร้างต้นแบบ (Prototyping): การสร้างต้นแบบที่สามารถทดสอบได้
  • การเข้าใจข้อมูล (Data Analytics): ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลจากการใช้งาน

ทักษะสำหรับ UI (User Interface):

  • การออกแบบกราฟิก (Graphic Design): ความสามารถในการสร้างภาพ, สี, และองค์ประกอบต่างๆ
  • การใช้เครื่องมือออกแบบ: เช่น Adobe XD, Sketch, Figma และอื่นๆ
  • การออกแบบการตอบสนอง (Responsive Design): การออกแบบให้เว็บหรือแอปสามารถใช้งานได้ดีบนหลายขนาดหน้าจอ
  • การเข้าใจแบรนด์ (Branding): การสร้างและรักษาความสอดคล้องกับแบรนด์
  • การทำงานร่วมกับนักพัฒนา: ความสามารถในการสื่อสารและทำงานร่วมกับทีมพัฒนา
  • การเข้าใจการใช้งาน: การออกแบบให้สอดคล้องกับการใช้งานจริง

ทำไม UX UI คือ Key ที่สำคัญกับธุรกิจ

ทำไม UX UI คือ Key ที่สำคัญกับธุรกิจ

การประสบความสำเร็จในธุรกิจยุคดิจิทัลนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดีเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่ผู้ใช้ได้รับ และการออกแบบที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกดีต่อสินค้าหรือบริการด้วย นี่คือสิ่งที่ UX และ UI มีบทบาทเป็นอย่างมาก

  • การสร้าง impression แรก: 94% ของผู้ใช้บอกว่าการนำทางที่ง่ายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ในขณะที่ 83% เชื่อว่าการมีลักษณะที่สวยงามและทันสมัยบนเว็บไซต์เป็นสิ่งที่จำเป็น
  • การลงทุนใน UX คุ้มค่า: ตามการวิจัยจาก Forrester ในปี 2016 พบว่าการลงทุน 1 ดอลลาร์ใน UX สามารถสร้างผลตอบแทนมากถึง 100 ดอลลาร์ และการมี UI ที่ดีสามารถเพิ่มอัตราการแปลงสูงสุดถึง 200% และ UX ที่ดีสามารถเพิ่มเป็นสองเท่า — สูงสุดถึง 400%
  • การตัดสินใจของผู้ซื้อ: การวิจัยในปี 2021 จาก Gartner พบว่า 58% ของลูกค้าเชื่อว่าประสบการณ์ดิจิทัลส่วนใหญ่ไม่มีผลต่อการตัดสินใจในการซื้อของพวกเขา
  • การออกแบบที่ดีสามารถไม่ถูกสังเกตเห็น: 32% ของผู้คนจะหยุดมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์หลังจากประสบประสบการณ์ที่ไม่ดี ตามการวิจัยในปี 2018 โดย PWC
  • การปรับใช้สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่: ในปี 2021 มี 54.5% ของการจราจรเว็บไซต์ทั่วโลกที่สร้างขึ้นโดยอุปกรณ์เคลื่อนที่

การออกแบบ UX และ UI ที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกดีเมื่อใช้งานสินค้าหรือบริการของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการแปลงลูกค้าเป็นการขาย และสร้างความประทับใจที่ดีต่อแบรนด์ของคุณ ดังนั้น การลงทุนใน UX และ UI นั้นเป็นสิ่งที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม.

ตัวอย่างธุรกิจที่มี UX และ UI ที่ดีจนประสบความสำเร็จ

ตัวอย่างธุรกิจที่มี UX และ UI ที่ดีจนประสบความสำเร็จ

เหตุผลที่ธุรกิจเหล่านี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงเป็นผลมาจากการใส่ใจในการออกแบบ UX และ UI ที่ดี ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสะดวกสบายและพึงพอใจในการใช้งาน.

  1. Apple: ผลิตภัณฑ์ของ Apple มีการออกแบบที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสะดวกและพึงพอใจ
  2. Airbnb: แพลตฟอร์มจองที่พักที่มีการออกแบบที่ชัดเจน การค้นหาที่ง่าย และกระบวนการจองที่รวดเร็ว
  3. Netflix: การแนะนำภาพยนตร์และซีรีย์ตามความชอบของผู้ใช้ และการออกแบบที่เน้นความง่ายในการเลือกดู
  4. Spotify: การจัดหมวดหมู่เพลงที่ชัดเจน และการสร้าง playlist ที่ตอบสนองต่อความชอบของผู้ใช้
  5. LINE: แอปแชทที่มีการออกแบบที่เรียบง่าย และมีฟีเจอร์ stickers ที่เป็นเอกลักษณ์
  6. Grab: แอปจองรถแท็กซี่และบริการอื่นๆ ที่มีการออกแบบที่ใช้งานง่าย และการแสดงผลที่ชัดเจน
  7. Lazada: เว็บไซต์และแอปซื้อขายออนไลน์ที่มีการแสดงผลสินค้าที่ชัดเจน และกระบวนการซื้อที่รวดเร็ว
  8. Google Maps: แอปนำทางที่มีการแสดงผลแผนที่ที่ชัดเจน และการนำทางที่แม่นยำ
  9. Instagram: แอปสื่อสังคมที่มีการออกแบบที่เน้นความง่ายในการโพสต์และดูภาพ
  10. Zoom: แพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์ที่มีการออกแบบที่ใช้งานง่าย และมีฟีเจอร์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้

การออกแบบ UX และ UI ที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกดีเมื่อใช้งานสินค้าหรือบริการของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการแปลงลูกค้าเป็นการขาย และสร้างความประทับใจที่ดีต่อแบรนด์ของคุณ ดังนั้น การลงทุนใน UX และ UI นั้นเป็นสิ่งที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม.